อนุพงษ์ อัศวโภคิน
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

ปี 2566 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีแห่งความหวัง หลายคนเฝ้ารอภาพเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวเมื่อโควิดได้หายไป แต่เมื่อเอาเข้าจริง ทั้งเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจประเทศไทยต่างเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแทนที่ปี 2566 จะเป็นปีของการติดสปีดเร่งฟื้นธุรกิจ แต่เราทุกคนยังคงติดกันวังวนกระแสคลื่นเศรษฐกิจที่ยังคงถาโถมเข้ามาลูกแล้วลูกเล่าอย่างเลี่ยงไม่ได้

ในปีที่ผ่านมาปัญหาที่เราเผชิญกันไม่ใช่เพียงเศรษฐกิจไทยที่ถดถอย หรือเศรษฐกิจโลกที่พลิกผัน แต่ยังรวมถึงผลกระทบจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Conflict) ที่เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศ แน่นอนว่าทั้งหมดส่งผลให้โลกไม่ได้สงบสุข เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนมีอิทธิพลต่อกลไลต่างๆ ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกทั้งระบบให้ก้าวเดินต่อไป

ขณะเดียวกันย้อนกลับมาที่ประเทศไทย ต้นปี 2566 หลายหน่วยงานคาดกันว่าเศรษฐกิจไทยจะโตอยู่ที่ 3.7% แต่ความเป็นจริงปรากฎว่าไปได้แค่ประมาณ 1.9% ถึงแม้วันนี้เราจะมีรัฐบาลชุดใหม่ แต่ก็ยังต้องใช้เวลาในการตั้งหลักอีกพอสมควร หนี้ภาคครัวเรือและหนี้เสียก็สูงขึ้น ด้านบริษัทอสังหาริมทรัพย์เองปีที่แล้วก็เจอมรสุมรอบด้าน ทั้งการเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะการกู้ซื้อบ้านของลูกค้า ไม่เพียงแค่นั้นนะครับ ตลาดตราสารหนี้ก็มีปัญหา บริษัทอสังหาริมทรัพย์บางแหล่งเริ่มมีปัญหาในการไถ่ถอนตราสารหนี้ ซึ่งจะส่งผลวงกว้างต่อความเชื่อมั่นของภาคประชาชนในตลาดตราสารหนี้

แต่อย่างไรก็ตามปีที่ เอพีเรายังคงสามารถฝ่าฟันทุกความท้าทายข้างต้นมาได้อย่างดีนะครับ เราเป็นบริษัทที่มียอดขายสูงที่สุดในอุตสาหกรรม เราสามารถทำได้ยอดขายได้มากถึง 51,390 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากตลาดคอนโดที่ปรับตัวดีขึ้น และมีรายได้รวมจากสินค้าแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม (100% JV) และธุรกิจอื่นๆ ที่สูงถึง 48,757 ล้านบาท ซึ่งสูงเคียงกับปีก่อนหน้า ในขณะที่เรามีกำไรสุทธิที่มากถึง 6,054 ล้านบาท

ผมในนามผู้บริหารเอพี ไทยแลนด์ ขอขอบคุณผู้ถือหุ้น พนักงานเอพีทุกคน คู่ค้า และที่จะขาดไม่ได้เลย คือ ขอบพระคุณลูกค้าทุก ๆ ท่าน ที่ยังให้ความไว้ใจบริษัททำให้เราสามารถที่จะผ่านพ้นปีที่แล้วไปได้อย่างดีครับ

สำหรับปีนี้ ปี 2567 ผมเชื่อว่าจะต้องเป็นปีที่ไม่ได้ง่าย ผลความยากลำบากที่เกิดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้วยังคงส่งต่อความท้าทายข้ามมาในปีนี้ สังเกตได้จากการคาดเดาการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศก็ยังไม่ได้สูงมาก ดอกเบี้ยก็ยังคงอยู่ในระดับที่สูง และมีผลต่ออัตราการปฏิเสธสินเชื่อของลูกค้า ตลอดจนปัญหาความเชื่อมั่นในตลาดตราสารหนี้ก็ยังไม่หาย

อย่างไรก็ดี เอพีเราได้เตรียมตัวเพื่อรับมือกับทุกความท้าทายที่กล่าวไว้ในข้างต้นกับทั้งหมดแล้วครับ วันนี้สัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนของเราอยู่ที่ 0.79 เท่า เสถียรภาพทางการเงินของบริษัทฯ ณ ปัจจุบันถือว่ามีความแข็งแกร่งอย่างมาก เรามีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีเยี่ยม และเพียงพอต่อการเติบโตอย่างมั่งคงในระยะยาว พร้อมโอกาสที่มากกว่าด้วยศักยภาพในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่หลากหลายช่องทาง

ทั้งตลาดเงินที่พร้อมเปิดกว้างต้อนรับบริษัทฯ ซึ่งเมื่อต้นปีบริษัทฯ ได้ชำระหุ้นกู้มูลค่า 2,500 ล้านบาทเสร็จสิ้นตามกำหนดดิวเป็นที่เรียบร้อย และในเวลาเดียวกันหุ้นกู้ออกใหม่มูลค่า 3,500 ล้านบาทของเราก็ได้รับการต้อนรับอย่างล้นหลาม (over subscription) เรามีวงเงินสินเชื่อพร้อมเบิกใช้ (available credit line) จากสถาบันทางเงินที่ให้วงเงินแก่บริษัทฯ มากถึง 12,757 ล้านบาท รวมถึงรายได้จากการขายและโอนอสังหาริมทรัพย์ (Cash inflow) ที่กระจายความเสี่ยงไปในทุก Segment ในเครือกว่า 200 โครงการ ตามเป้าหมายการรับรู้รายได้ปี 2567 กว่า 52,500 ล้านบาท ที่จะทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากที่จะสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทให้เป็นไปตามเป้าหมายอย่างเต็มศักยภาพ

นอกจากนั้นแล้ว เรายังคงเดินหน้าให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ESG) เราได้รวมแนวทางปฎิบัติเพื่อความยั่งยืนเข้ากับการดำเนินงานของเรา โดยในด้านสิ่งแวดล้อม เรามีเจตนารมย์เดียวกับประเทศไทยที่จะบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งในการ "ลด" และ "ชดเชย" (lower & offset) การปล่อยคาร์บอนจนเป็นกลางไปด้วยกัน และเรายังคงดำเนินงานในการร่วมพัฒนาชุมชน และสังคม เพื่อให้สังคมและชุมชนสามารถต่อยอด และเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสุดท้ายในเรื่องการดูแลการกำกับกิจการที่ดี เรายังคงได้รับผลการประเมินในระดับยอดเยี่ยม และมีการทบทวนกิจกรรมการกำกับดูแลอยู่เสมอในปีนี้ เพื่อให้สอดคล้องและทันสมัย เป็นไปตามแผนธุรกิจของบริษัท ที่มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับบริบทของยุคสมัยอย่างสม่ำเสมอ

สุดท้ายนี้ ผมในนามของบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ขอขอบพระคุณลูกค้าทุกท่าน ผู้ถือหุ้นและหุ้นกู้ รวมถึงพันธมิตรทุกท่านที่เชื่อมั่นและให้การสนับสนุนเอพีเป็นอย่างดีเสมอมา ตลอดจนสถาบันการเงินทุกแห่งที่ได้ให้ความไว้วางใจ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะยังคงเชื่อมั่น และเติบโตไปร่วมกันกับเราดังเช่นที่ผ่านมาครับ